เมืองนรา อบอุ่น ด้วยความรักใคร่
จังหวัดนราธิวาส
เป็นจังหวัดชายแดน ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลด้านตะวันออกของแหลมมลายู
ห่างจากกรุงเทพมหานครโดยทางรถยนต์ประมาณ 1149 กิโลเมตร
และทางรถไฟ ประมาณ 1116 กิโลเมตร สุดชายแดนไทย-มาเลเซีย
ที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก
นราธิวาสเดิมชื่อ “มะนาลอ” เป็นหมู่บ้านขึ้นอยู่กับเมืองสายบุรี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
รัชกาลที่
1 เมืองนราธิวาส"บางนรา"ขึ้นอยู่กับเมืองสายบุรี ซึ่งเป็นเมือง ๆ หนึ่งในบริเวณ 7 หัวเมือง ต่อมาได้โอนไปขึ้นกับเมืองระแงะซึ่งเป็นหนึ่งในบริเวณ7หัวเมืองเช่นกันดังนั้นการที่จะทราบถึงประวัติความเป็นมาของเมืองนราธิวาสจะต้องกล่าวถึงเรื่องราวของเมืองปัตตานี
เมืองสายบุรี และเมืองระแงะ ซึ่งเป็นบริเวณหัวเมือง เป็นลำดับติดต่อกันไป1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ทรงรับสั่งให้กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท
ยกทัพหลวงลงมาปักษ์ใต้เพื่อปราบปรามข้าศึกที่จะยกมายังพระราชอาณาเขตทางใต้
เมื่อข้าศึกแตกพ่ายหนีไปหมดแล้ว จึงได้เสด็จไปประทับ ณ
เมืองสงขลาและได้มีรับสั่งออกไปถึงหัวเมืองมลายูทั้งหลาย
ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นกับกรุงศรีอยุธยามาก่อนให้มาอ่อนน้อมเหมือนดังเดิม
พระยาไทรบุรี พระยาตรังกานูยอมอ่อนน้อมแต่โดยดี
แต่พระยาปัตตานีตั้งแข็งเมืองไม่ยอมอ่อนน้อม
จึงได้รับสั่งให้ยกกองทัพลงไปตีเมืองปัตตานีเมื่อ พ.ศ.2332 เมื่อได้เมืองปัตตานีแล้ว ก็โปรดเกล้าให้พระราชทานตราตั้งให้พระยาสงขลา (บุญฮุย)เป็นพระยาปัตตานีและให้อยู่ในความกำกับดูแลของเมืองสงขลาต่อไปและตั้งให้เป็นเมืองมนตรีขึ้นอยู่กับกรุงรัตนโกสินทร์โดยตรง
ในระหว่างที่พระยาปัตตานี (ขวัญซ้าย) ว่าราชการเมืองปัตตานีอยู่นั้นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยเป็นปกติสุขตลอดมา
ครั้นต่อมาเมื่อพระยาปัตตานีถึงแก่กรรมลง
โปรดเกล้าให้นายพ่ายน้องชายพระยาหลวงสวัสดิภักดีผู้ช่วยราชการเมืองปัตตานีและได้ย้ายที่ว่าการเมืองปัตตานีจากบ้านมะนา (อ่าวนาเกลือ) ไปตั้งที่บ้านยามู
ในระหว่างนั้นพวกซาเห็ดรัตนาวงศ์ฯ
และพวกโมเซฟได้เริ่มก่อกวนความสงบสุขของบ้านเมือง
โดยคบคิดกันเข้าปล้นบ้านพระยาปัตตานีและบ้านหลวงสวัสดิภักดี แต่ก็ได้ถูกตีถอยหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ตำบลบ้านกะลาพอ
เขตเมืองสายบุรีนอกจากนั้นเมืองปัตตานีมีอาณาเขตกว้างขวางและมีโจรร้ายปล้นบ้านเรือนราษฎรชุกชุมยิ่งขึ้น
จนเหลือกำลังที่พระยาปัตตานีจะปราบให้สงบราบคาบได้
จึงแจ้งข้อราชการไปยังเมืองสงขลา พระยาสงขลา(เถี้ยนจ๋อง)ออกมาปราบปรามและจัดวางนโยบายแบ่งแยกเมืองปัตตานีออกเป็น 7 หัวเมือง เมื่อ พ.ศ. 2353 แล้วทูลเกล้าถวายรายชื่อเมืองที่แยกออกไปดังนี้ เมืองปัตตานี เมืองหนองจิก
เมืองยะลา เมืองรามัน เมืองระแงะ เมืองสายบุรี และเมืองยะหริ่ง ต่อมาในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีพระยาปัตตานี(ตวนสุหลง) พระยาหนองจิก (ตวนกะจิ) พระยายะลา (ตวนบางกอก) พระยาระแงะ(หนิเดะ) เจ้าเมืองทั้ง 4 ได้สมคบร่วมคิดกันเป็นกบฏขึ้นในแผ่นดิน
จึงโปรดเกล้าให้พระยาเพชรบุรีและพระยาสงขลา (เถี้ยนเส้ง) ลงมาปราบ และพิจารณาเห็นว่าหนิบอสู ชาวบ้านบางปู ซึ่งพระยายะหริ่งแต่งตั้งให้เป็นกรมการเมืองยะหริ่ง
ได้เป็นกำลังสำคัญ และได้ทำการสู้รบด้วยความกล้าหาญยิ่ง ด้วยคุณงามความดีอันนี้
จึงได้แต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาราชการเมืองระแงะ สืบต่อจากพระยาระแงะ (หนิเดะ) ที่หนีไป
และได้ย้ายที่ว่าราชการจากบ้านระแงะมาตั้งใหม่ ณ ตำบลตันหยงมัส (ซึ่งเป็นอำเภอ ระแงะในปัจจุบัน)
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงให้ยกเลิกการปกครองแบบเก่า
เพราะการแบ่งเขตแขวงการปกครองและตำแหน่งหน้าที่ราชการในหัวเมืองทั้ง ครั้นต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้
เมื่อเสด็จมาถึงเมืองบางนรา ทรงพระราชทานพระแสงราชศัสตราแก่เมืองบางนรา
และทรงดำริเห็นว่าบางนรานั้นเป็นชื่อตำบลบ้านและควรที่จะมีชื่อเมืองไว้เป็นหลักฐานสืบไป
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น 7 ยังก้าวก่ายกันอยู่หลายอย่าง
จึงได้วางระเบียบแบบแผนการปกครองและตำแหน่งหน้าที่ราชการให้เป็นระเบียบตามควรแก่กาลสมัยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมพ.ศ.2444 ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2449 มีประกาศพระบรมราชโองการให้แยกบริเวณ 7 หัวเมือง ออกมาจากมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า "มณฑลปัตตานี" เพื่อให้สะดวกแก่ราชการ
และทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญขึ้นกว่าแต่ก่อนในปี พ.ศ.
2458 ได้ย้ายที่ว่าราชการจากเมืองระแงะ ตำบลตันหยงมัส
มาตั้งที่บ้านมะนาลอ (บางมะนาวปัจจุบัน) อำเภอบางนรา ส่วนท้องที่เมืองระแงะ
และยกฐานะอำเภอบางนราขึ้นเป็นเมืองบางนรา มีอำเภอในเขตปกครองคืออำเภอบางนรา
อำเภอตันหยงมัส กิ่งอำเภอยะบะ อำเภอสุไหงปาดี กิ่งอำเภอโต๊ะโมะ "เมืองนราธิวาส" เมื่อวันที่10 มิถุนายน พ.ศ. 2458 (นร+อธิวาส แปลว่า ที่อยู่ของคนดี) ในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการปรับปรุงระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคครั้งใหญ่และให้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นจังหวัด
เมืองนราธิวาสจึงเปลี่ยนมาเป็น "จังหวัดนราธิวาส" ดังเช่นปัจจุบัน
ถึงแม้ในอดีตจะเกิดเรื่องอะไรต่างๆมากมาย
แต่เมืองนราธิวาสในปัจจุบัน เป็นเมืองที่สวย มีสถานที่เที่ยวสวยๆ เช่น หาดนราทัศน์
เสือสระแก้ว อ่าวมะนาว เป็นต้น ผู้คนรักใคร่กัน ใครว่างๆ ก็สามารถไปเที่ยวเมืองมะนาลอ
หรือ นราธิวาสในปัจจุบันได้น่ะค่ะ
แหล่งข้อมูล : http://www.l3nr.org/posts/312237
http://nwt.onab.go.th/index.php?
https://www.google.co.th/search?q=เมืองนราธิวาส&source
จัดทำโดย : เด็กหญิงอามีมี ยีมะยี ม.2/2 เลขที่ 33
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น