ตำนานเขาสามมุข
เขาสามมุข หรือเขาเจ้าแม่สามมุข
อยู่ระหว่างตำบลอ่างศิลา และชายหาด บางแสน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี
บริเวณเชิงหน้าผานี้มีศาล ชื่อว่า "ศาลเจ้าแม่สามมุข" อยู่ ๒ หลัง
เป็นศาลไทยและศาลจีน เป็นที่เคารพสักการะของชาวประมงในท้องถิ่นจังหวัดชลบุรี และนักทัศนาจรที่เยือนไปมา
และเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของสาวมุขและหนุ่มแสน ปัจจุบันบริเวณเขาสามมุข
มีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาบนเขาสามมุข โดยการนำกล้วย อ้อย และถั่ว
ฯลฯ ไปฝากฝูงลิงเหล่านี้ ซึ่งเป็นสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่น่าสนใจและเป็นตำนานเล่าขานกันมาถึงทุกวันนี้
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ณ
หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี มีหญิงสาวผู้หนึ่งชื่อว่า สาวมุข หรือ
สาวมุก เป็นหญิงสาวสวยชาวเมืองบางปลาสร้อย ผู้กำพร้าบิดามารดา
ได้มาอาศัยอยู่กับยายที่กระท่อมเชิงเขาสามมุขแห่งนี้ ต่อมาสาวมุขได้รักกับหนุ่ม นามว่า
แสน บุตรกำนันบ่าย เศรษฐีแห่งบ้านหิน (อ่างศิลา) ซึ่งอยู่ห่างจากเขาสามมุขไปประมาณ
๕ กิโลเมตร ทั้งสองต่างสัญญาว่า จะรักกันชั่วนิรันดร
และใช้สถานที่บริเวณเชิงผาแห่งนี้นัดพบกัน แต่เมื่อความทราบถึงกำนันบ่าย
ผู้ซึ่งรังเกียจความยากจนของสาวมุข จึงบังคับแสนให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ตนเลือกให้ด้วยความพึงพอใจ
ในวันที่แต่งงานนั้น สาวมุขได้เดินทางมาอวยพร และรดน้ำสังข์แก่คู่บ่าวสาว
พร้อมทั้งคืนแหวนที่แสนเคยให้ไว้กว่าที่แสนจะรู้ว่า อะไรเกิดขึ้น สาวมุข
ก็ได้วิ่งหนีหายไปบนเชิงเขาริมหน้าผา และสาวมุขได้ตัดสินใจโดดหน้าผาบูชาความรักจนถึงแก่ชีวิต
ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แสนจึงโดดหน้าผาตายตามไปอีกคนหนึ่ง จากเหตุการณ์นี้เอง
ภูเขาที่เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของหนุ่มแสนและสาวมุขจึงชื่อว่า เขาสามมุข
ส่วนชายหาดบริเวณใกล้เคียงก็ได้ชื่อว่า บางแสน ดังที่ปรากฎเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้
ตำนานต่างๆ มีความเชื่อที่หลากหลาย บางคนเชื่อแต่บางคนไม่เชื่อ เราควรใช่วิจารณญานในการรับฟังเพื่อตัดสินใจว่าจะเชื่อดีหรือไหม แล้วคุณล่ะ เชื่อในเรื่องนี้ไหม ???
แหล่งอ้างอิง : http://www.tumnandd.com
จัดทำโดย เด็กหญิงอามีมี ยีมะยี ม.2/2 เลขที่ 33
ถึงอามีมี ยีมายี
ตอบลบครูตรวจงานแล้วนะครับ ครั้งที่ ๑ คะแนน ๑๐ คะแนน ได้ ๔ คะแนนครับ
ครูขอเป็นกำลังใจให้ในการปรับปรุงเรียงความให้สมบูรณ์นะครับ ดังนี้
๑.ให้เปลี่ยนเนื้อหาใหม่หมดเลยให้นักเรียนไปดูคำสั่งที่ใบงานใหม่เริ่มต้นใหม่นะครับ
๒ เขียนเรียงความเรื่องที่มันอยู่ในท้องถิ่น
๓. จัดข้อความให้น่าสนใจ
๔. บอกแหล่งที่มาของข้อมูลในการเขียนเรียงความ เช่น เวบไซต์ที่ใช้ในการสืบค้น เป็นต้